เที่ยวสตูล เล่นน้ำตก มุดถ้ำ ดำนำ

ประเทศไทย

เที่ยวสตูล เป็นจังหวัดเล็กๆ ที่น่าสนใจ โดยเฉพาะสำหรับใครที่เป็นนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติละก็ ต้องถูกใจคุณแน่นอน เพราะแต่ละแห่งนั้นสวย ตระการตา และที่สำคัญคือยังคงความอุดมสมบูรณ์ของสภาพแวดล้อมเอาไว้ได้เป็นอย่างดี

เรามีแหล่ง 12 ที่ท่องเที่ยวเด็ดของสตูลมาฝากจ้า

1.วนอุทยานน้ำตกธาราสวรรค์

ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ “ป่าเขาหมาไม่หยก” จัดตั้งเป็นวนอุทยาน โดยกรมป่าไม้เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2539

เป็นเขตที่มีฝนตกชุกค่อนข้างสม่ำเสมอ สายน้ำกับป่าเขาดูเหมือนเป็นของคู่กันมาแต่ไหนแต่ไร เมื่อมีป่าดิบอันอุดมสมบูรณ์ ย่อมต้องมีธารน้ำอันบริสุทธิ์เคียงข้างกันเสมอ และนี่คือสายน้ำตกที่มีความสูงมากแห่งหนึ่งของจังหวัดสตูล ซึ่งมีน้ำไหลตลอดทั้งปีดั่งสายธาราจากสวรรค์ที่ไม่เคยเหือดแห้ง น้ำตกแห่งนี้มีต้นน้ำมาจากเขาไคร มีลักษณะเป็นน้ำตก 5 ชั้น ซึ่งได้รับการจัดตั้งเป็นวนอุทยานเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2539 สภาพทั่วไปมีพืชพรรณและสัตว์ป่าที่อุดมสมบูรณ์มีการพบพันธุ์ไม้ที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจ ได้แก่ไม้ยางหลุมพอตะเคียนไข่เขียวกระบากแดงควนไผ่หวายชนิดต่าง ๆ และพืชสมุนไพรส่วนสัตว์ป่าที่พบนั้น ได้แก่ ไก่ป่า ลิงค่าง เม่น ชะนี ค้างคาว กวาง เสือ หมี หมูป่า อีเห็น และนกชนิดต่าง ๆ ให้ทุกคนได้เพลิดเพลิน


2.น้ำตกโตนปลิว

เป็นน้ำตกที่ตั้งอยู่ในเขตรอยต่อระหว่างนครศรีธรรมราชและสตูล ตัวน้ำตกแบ่งเป็นชั้นได้ทั้งหมด 5 ชั้น และมีความสูงอยู่ที่ประมาณ 40 เมตร ต้นน้ำของน้ำตกสายนี้เกิดจากภูเขาหัวกาหมิง ในจังหวัดนครศรีธรรมราช และเพราะเป็นผืนป่าต้นน้ำที่มีความอุดมสมบูรณ์มาก ทำให้น้ำตกแห่งนี้มีน้ำตลอดทั้งปี เป็นอีกหนึ่งน้ำตกที่มีความสวยงามและน่าสนใจ เหมาะสำหรับคนที่วางแผนจะเดินทางมาและมองหาพิกัดเที่ยวสตูลอยู่เลยละ


3.น้ำตกวังสายทอง

เป็นน้ำตกชั้นหินปูนขนาดใหญ่เป็นชั้นน้อยชั้นใหญ่ มีความสวยงามและมหัศจรรย์น่าหลงใหล ซึ่งเป็นน้ำตกหินปูนแห่งแรกในภาคใต้ที่เดินแล้วไม่ลื่น ด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่มีความอุดมสมบูรณ์ที่หาดูได้ยาก เป็นน้ำตกหินปูนที่มีแหล่งน้ำแต่ละชั้นไหลลดหลั่นผ่านชั้นหินปูนสีเหลืองอร่ามดั่งทองเมื่อกระทบกับแสงอาทิตย์ดูงดงามราวกับดอกบัว บริเวณน้ำตกมีต้นไม้สูงใหญ่ร่มรื่น แหล่งน้ำมาจากการอัดและทะลักของน้ำในถ้ำใต้ภูเขาทะลุออกมาตามช่องเขาลงสู่แอ่งต่างๆ ที่รองรับอยู่บริเวณรอบๆ ที่ถูกพอกด้วยหินปูนน้ำจืดเป็นทำนบเล็กๆ และเต็มไปด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด แล้วไหลลงสู่คลองละงู  มีการพอกพูนของสารแคลเซียมคาร์บอเนตเกิดเป็นริ้วสายของปูนน้ำจืดตามการไหลของกระแสน้ำตก แต่ละชั้นเป็นขั้นบันไดเกยกันไปมา  เกิดเป็นอ่างน้ำธรรมชาติเล็กใหญ่ภายใต้ร่มไม้ร่มรื่นสามารถลงเล่นน้ำได้อย่างสนุกสนามชื่นใจ มีความสะดวกสบายเนื่องจากจุดเที่ยวชมน้ำตกอยู่ใกล้บริเวณถนนจุดจอดรถ ทำให้เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่ลงเล่นน้ำคลายร้อนเป็นอย่างมาก


4.เกาะหลีเป๊ะ 

เกาะฮ้อตฮิตที่ครองใจใครหลายคนมาอย่างยาวนาน ด้วยความสวยตามธรรมชาติที่หลายคนตั้งฉายาให้ว่าเกาะนี้คือมัลดีฟส์ของเมืองไทย กับหาดทรายขาวละเอียดราวกับผงแป้ง กับน้ำทะเลสีฟ้าใสแจ๋วที่สวยเกินจริงมากมาย แถมใต้น้ำยังเต็มไปด้วยปะการังและฝูงปลา บนเกาะมีชายหาดหลักใหญ่ๆ อยู่ 3 หาด ซึ่งเพียบพร้อมไปด้วยความสะดวกสบายไม่ว่าจะเป็นที่พัก ร้านค้า หรือร้านอาหาร ทั้งสวย ทั้งชิลล์ ทั้งเดินทางง่าย สมแล้วที่ครองตำแหน่งอันดับหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวสตูลมาได้อย่างยาวนาน มาเที่ยวสตูลทั้งที ควรมีที่นี่อยู่ในลิสต์ด้วยนะ รู้ยัง?


5.เกาะอาดัง

เป็นเกาะหนึ่งในอุทยานแห่งชาติตะรุเตา ตั้งอยู่กลางทะเลอันดามันไม่ไกลมากนักจากเกาะหลีเป๊ะ และนับเป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของสตูล รองจากเกาะตะรุเตา เกาะนี้มีสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ทั้งบนบกและใต้น้ำ รวมถึงมีจุดเด่นที่หาดทรายขาวละเอียดและน้ำทะเลสีฟ้าใสแจ๋ว นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จึงนิยมมาพักบนเกาะหลีเป๊ะซึ่งสะดวกสบายกว่า และนั่งเรือออกมาดำน้ำหรือนอนอาบแดดเดินชิลล์บนหาดทรายของเกาะนี้กัน สวย สงบ สบาย มาเที่ยวสตูลกันเมื่อไหร่ขอให้แวะมา 


6.เกาะไข่

เป็นเกาะเล็กๆ อีกหนึ่งเกาะในสตูลที่ได้ชื่อว่ามีความสวยงามทางธรรมชาติในระดับน่าประทับใจ เพราะมีหาดทรายขาว น้ำทะเลสีฟ้าใส และมีทรัพยากรทางธรรมชาติใต้ท้องทะเลที่สวยงามเหมาะแก่การดำน้ำเป็นอย่างยิ่ง ไฮไลท์บนเกาะนี้ต้องยกให้กับซุ้มประตูหินโค้งตามธรรมชาติ ที่หลายคนเรียกว่าซุ้มประตูรักนิรันดร์ เพราะเชื่อกันว่าหากคู่รักคู่ไหนได้มาเดินลอดซุ้มหินแห่งนี้ จะมีความรักหวานชื่นครองคู่กันไปได้อีกนานแสนนาน ถ้าอยากเป็นส่วนหนึ่งในตำนาน วันไหนมาเที่ยวสตูลคุณต้องแวะมา


7.เกาะหินงาม

เป็นหนึ่งจุดเที่ยวสตูลในอุทยานแห่งชาติตะรุเตา ตัวเกาะเป็นเกาะขนาดไม่ใหญ่แต่มีไฮไลท์เด็ดที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวทั้งหลาย ตรงที่ชายหาดของเกาะนี้นั้นจะไม่มีหาดทรายเหมือนหาดทั่วไป แต่กลับเต็มไปด้วยก้อนหินมากมายหลากหลายรูปแบบและขนาด ซึ่งหินเกือบทุกก้อนจะถูกคลื่นและลมกัดเซาะจนกลายเป็นหินเกลี้ยงเกลาไร้เหลี่ยมมุม ที่สำคัญคือมีลวดลายและสีสันที่เป็นเอกลักษณ์สวยงาม แต่เชื่อกันว่าหินทุกก้อนบนเกาะนี้มาพร้อมกับคำสาปแช่งหากคุณนำติดตัวกลับไป ดังนั้น มาเดินเล่น ชมวิว ดำน้ำ ดูความสวยกันด้วยตา แล้วอย่าหยิบฉวยอะไรไปด้วยล่ะ จะได้เที่ยวกันแบบสบายๆ ทั้งกายและใจกันทุกคนไงคุณ


8.ถ้ำภูผาเพชร

ว่ากันว่านี่คือถ้ำที่มีขนาดกว้างใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 4 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีเนื้อที่โดยรวมด้านในประมาณ 50 ไร่เลยทีเดียว ด้านในแบ่งออกเป็นห้องใหญ่ๆ ในลักษณะต่างๆ ได้อีก 20 ห้อง โดยทางขึ้นสู่ถ้ำนี้ต้องเดินขึ้นบันไดไปกว่า 300 ขั้น ด้านในถ้ำมีหินงอกหินย้อยหลายไซส์หลายรูปแบบให้ได้ชมกัน แต่ไฮไลท์ของถ้ำนี้นั้นจะอยู่บริเวณลานแสงมรกต ที่มีช่องแสงลอดผ่านผนังสีเขียวลงมาได้จังหวะจะโคนราวกับการส่องสปอร์ตไลท์ในตู้โชว์สวยๆ ของพิพิธภัณฑ์กันเลยทีเดียวละ ในถ้ำนี้มีการทำทางเดินเอาไว้แบบสะดวกสบาย แต่ยังไงก็ต้องพึ่งกำลังขากันซักนิดนึงนะ และขอบอกว่านี่คือพิกัดเที่ยวสตูลซึ่งตื่นตาตื่นใจคุ้มค่ากับแรงกายที่ต้องใช้ไปจริงๆ มาเหอะ มันเริ่ดมาก!


9.อุทยานแห่งชาติทะเลบัน

เป็นอุทยานแห่งชาติที่กินพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 196 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ป่าไม้มากมาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นภูเขาที่สลับซับซ้อนและค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ รวมถึงยังเป็นพื้นที่ต้นน้ำของแหล่งน้ำสำคัญอีกมากมาย และยังมีบึงน้ำจืดขนาดใหญ่พื้นที่ 125 ไร่ตั้งอยู่ ด้วยความสมบูรณ์แบบแน่นๆ ของธรรมชาติขนาดนี้ ที่นี่จึงเป็นที่อยู่ของสัตว์ป่ามากมายหลากหลายสายพันธุ์ซึ่งหาดูได้ไม่ง่ายนัก และยังมีพื้นที่ซึ่งเป็นที่อยู่ของชาวซาไกอยู่ในบริเวณเดียวกัน นอกจากนั้น ยังมีน้ำตกที่สวยงามอีกมากมาย ใครเป็นสายธรรมชาติ ชอบการเดินป่าเพื่อศึกษาชีวิตสัตว์โลกและพืชพรรณ ต้องลงลิสต์จุดเที่ยวสตูลแห่งนี้กันเอาไว้ในอันดับต้นๆ ได้เลย


10.ปราสาทหินพันยอด 

นับเป็นหนึ่งจุดปักหมุดเที่ยวสตูลที่จัดอยู่ในหมวดหมู่ของสถานที่สุด Unseen แห่งหนึ่งเลยเชียว การเดินทางเข้าไปชมปราสาทหินพันยอดแห่งนี้ก็ถือว่าไม่ง่ายแต่ก็ไม่ยากเกินความพยายามนะ เรียกว่ามีความแอดเวนเจอร์กันแบบเบาๆ นิดนึง เพราะต้องนั่งเรือจากริมฝั่งเพื่อไปเปลี่ยนเป็นเรือคายัคกันกลางทะเล แล้วพายลอดเข้าไปชมด้านในของปราสาทหินพันยอดแห่งนี้ เมื่อพายลอดภูเขาหินเข้าไป จะพบกับภาพปล่องหินขนาดใหญ่ซึ่งดูคล้ายปราสาทสูงทะมึนล้อมรอบตัวเราเอาไว้เกือบ 360 องศา ตื่นตาตื่นใจ ได้สนุกแล้วยังได้ออกกำลังไปในคราวเดียวกัน


11.สะพานข้ามกาลเวลา เขาโต๊ะหงาย

เขาโต๊ะหงายเป็นเกาะขนาดไม่ใหญ่ มีพื้นที่บนเกาะทั้งที่เป็นหาดทรายและหน้าผาสูงชันต่อเนื่องจากทางฝั่งตะวันตกจรดฝั่งตะวันออกของตัวเกาะ โดยผาหินซึ่งอยู่สองฝั่งบนเกาะแห่งนี้นั้นจะมีลักษณะของหินที่ต่างกันไป แบ่งออกได้เป็นผาหินสีเทาและสีแดง ซึ่งจากข้อมูลทางด้านธรณีวิทยานั้นระบุว่าหินทั้งสองสีนี้เป็นหินที่มีระยะเวลาในการเกิดขึ้นต่างยุคกัน ปัจจุบันจึงมีการสร้างสะพานเล็กๆ เชื่อมต่อระหว่างช่วงหินทั้งสองฝั่งขึ้นเป็นกิมมิกของการเดินข้ามรอยต่อของกาลเวลา ซึ่งยึดตามยุคของหินจากยุคหนึ่งไปสู่อีกยุคหนึ่งนั่นเอง เก๋มั้ยล่ะ ได้มาเที่ยวสตูลแบบข้ามกาลเวลากันทีเดียว


12.พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสตูล

เป็นพิพิธภัณฑ์กลางตัวเมืองที่มาในรูปแบบอาคารเก่าแก่ซึ่งหลายคนรู้จักกันในชื่อคฤหาสน์กูเด็น ซึ่งเป็นอาคารสไตล์โคโลเนียลที่สร้างขึ้นมาเพื่อตั้งใจให้เป็นที่ประทับของในหลวง รัชกาลที่ 5 ด้านในปัจจุบันนี้เป็นที่เก็บรักษาข้าวของโบราณ รวมทั้งยังจัดแสดงเรื่องราวประวัตศาสตร์ความเป็นมา วิถีชีวิตประจำวัน และวัฒนธรรมของชาวสตูลเอาไว้อย่างครบครัน เดินทางง่าย ได้ความรู้ เป็นอีกหนึ่งจุดเที่ยวสตูลที่ควรต้องแวะมาชมกันเลยเชียว

Share
Tagged