หัวปลี หรือ banana blossom มีสรรพคุณทางยามากมาย นิยมนำมาปรุงอาหารทานดิบและสุกก็ได้ เป็นผักเครื่องเคียงผัดไทย แกงเลียงหัวปลี ยําหัวปลีกุ้งสด ลวกจิ้มนํ้าพริก ทอดมันหัวปลี ปลีกล้วยอุดมไปด้วยสารอาหาร ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายชนิด มาดูกันเลยว่าปลีกล้วยมีประโยชน์อะไรบ้าง

ประโยชน์และสรรพคุณของหัวปลี
- อุดมไปด้วยแคลเซียมมากกว่ากล้วยสุกถึง 4 เท่า โปรตีนธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส วิตามินซ บีตาแคโรทีน
- ช่วยบำรุงนํ้านม และเพิ่มคุณค่าสารอาหารในน้ำนมแม่ จึงเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับแม่ลูกอ่อน
- รักษาโรคกระเพราะอาหารอักเสบ แก้ปวดท้อง บำรุงลำไส้ อีกทั้งยังสามารถลดการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร
- ปลีกล้วยมีธาตุเหล็กจึงเป็นยาบำรุงเลือด แก้ภาวะโลหิตจาง และยังช่วยให้เลือดไหลเวียนดียิ่งขึ้น
- ปลีกล้วยอุดมไปด้วยแคลเซียม จึงช่วยบำรุงฟันให้แข็งแรง และช่วยให้ฟันขาวสะอาดแข็งแรง
- แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลม
- มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด จึงดีต่อผู้ป่วยโรคเบาหวาน
- มีสารต้านอนุมูลอิสระ ปลีกล้วยมีสารกลุ่มฟีโนลิก เช่น แอนโทไซยานิน เบตา-แคโรทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งได้
- แก้ประจำเดือนมาไม่ปกติ แก้ปวดประจำเดือน
- ยางจากหัวปลีก็ใช้รักษาแผลสด หรือทาบริเวณที่บวมจากแมลงสัตว์กัดต่อย ช่วยป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและเชื้อโรคจึงใช้รักษาอาการติดเชื้อได้
- ช่วยบำรุงผิวพรรณ ให้นวลเนียน ดูมีน้ำมีนวล
- ช่วยรักษาแผลในปากให้หายเร็วขึ้น ช่วยแก้ร้อนใน แผลปากเปื่อย
วัตถุดิบและเครื่องปรุง
- หัวปลีครึ่งหัว 200 กรัม
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
- หอมแดงซอย 10 กรัม
- ข้าวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
- พริกขี้หนูแห้งทอด 5 เม็ด
- ใบสะระแหน่ 5 กรัม
- ต้นหอม 10 กรัม
- พริกป่น 1 ช้อนชา
- เนื้อหมูสดไม่ติดมัน 50 กรัม
- น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีการปรุง
- หั่นหัวปลีเป็นชิ้นพอดีคำ แล้วนำไปล้างให้สะอาด ( ล้างหัวปีกับน้ำที่ผสมน้ำมะนาวประมาณ 5 – 10 นาที เพื่อไม่ให้หัวปลีมีสีดำ หรือสีคล้ำ )
- ปรุงรสด้วยน้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ พริกป่น ไม่ต้องใส่เยอะมาก เพราะเป็นอาการสำหรับคุณแม่มือใหม่ ใส่เนื้อหมูไม่ติดมันที่ลวกจนสุกแล้ว ข้าวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ ตามด้วยน้ำนาลปี๊บ และน้ำมะนาว คลุกเคล้าให้เข้ากัน
- ใส่หอมแดง ต้นหอม และหัวปลี คนให้เข้ากันแล้วชิมรสชาติ
- โรงหน้าด้วยสะระแหน่และพริกแห้งคั่ว ตักใส่จานพร้อมเสิร์ฟ