google translate
translate หรือ google translate หมายถึง ตัวช่วยการแปลจากภาษาหนึ่งไปเป็นอีกภาษาหนึ่ง เป็นต้นว่า แปลจากภาษาอังกฤษเป็นฝรั่งเศส (โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วย) ก็ได้ หรืออาจหมายถึงการแปลจากภาษา ที่ใช้เขียนโปรแกรมที่เรียกว่า ภาษาแนวมนุษย์ (human oriented language) ที่เครื่องไม่เข้าใจ เป็นภาษาเครื่อง (machine language) ที่เครื่องเข้าใจและปฏิบัติตามได้ก็ได้
กูเกิลเผยเทคโนโลยี AI ช่วยให้ Google Translate แปลภาษา แบบออฟไลน์ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
การแปลข้อความ: แปลไปมาระหว่าง 103 ภาษาด้วยการพิมพ์
แตะเพื่อแปล: คัดลอกข้อความในแอปแล้วแตะไอคอน Google แปลภาษาเพื่อแปล (ทุกภาษา) ออฟไลน์: แปลโดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต (59 ภาษา) การแปลทันใจด้วยกล้อง:แปลข้อความในรูปภาพได้ทันที เพียงเล็งกล้องถ่ายรูปไปที่ข้อความในรูปภาพ (88 ภาษา) รูปภาพ: ถ่ายภาพหรือนำเข้ารูปภาพเพื่อคำแปลที่มีคุณภาพสูงขึ้น (50 ภาษา)
การสนทนา: แปลการสนทนา 2 ภาษาได้อย่างรวดเร็ว (43 ภาษา) การเขียนด้วยลายมือ: เขียนตัวอักษรแทนการพิมพ์ (95 ภาษา) Phrasebook: ติดดาวและบันทึกคำและวลีต่างๆ ที่แปลไว้เพื่อใช้งานภายหลัง (ทุกภาษา) การซิงค์ข้ามอุปกรณ์: เข้าสู่ระบบเพื่อซิงค์ Phrasebook ระหว่างแอปกับเดสก์ท็อป
ปัจจุบันมีการเเปลภาษาเเบบออฟไลน์ที่ไม่ต้องเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2561 กูเกิลได้ประกาศนำเทคโนโลยี NMT ไปใช้ในแอปฯ Google Translate แบบออฟไลน์ทั้งบน Android และ iOS ซึ่งจะทำให้การแปลภาษาขณะไม่ได้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตนั้นแปลออกมาได้มีประสิทธิภาพกว่าเดิม โดยใช้วิธีแปลแบบแปลทั้งประโยค ไม่ได้แปลแบบแยกคำ ทำให้มีการจัดเรียงคำในประโยคที่ออกมาดูเหมือนประโยคที่แปลโดยมนุษย์จริง ๆ แม้ว่าจะให้แปลเป็นย่อหน้าหรือแปลทั้งบทความก็สามารถอ่านได้ลื่นไหลไม่มีสะดุด

การแปลแบบออฟไลน์นี้ มีประโยชน์อย่างยิ่งเมื่อต้องเดินทางไปต่างประเทศซึ่งอาจไม่สะดวกในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต แถมยังใช้พื้นที่ในการเก็บข้อมูลในการแปลเพียงภาษาละ 35-45MB เท่านั้น ซึ่งถือว่าไม่เปลืองพื้นที่ในเครื่องเลย
สำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานฟีเจอร์แปลแบบออฟไลน์ก็เพียงแค่เข้าไปที่ Offline Translation Settings จากนั้นก็เลือกดาวน์โหลดแพ็กเกจภาษาที่ต้องการใช้แปลแบบออฟไลน์ได้เลย โดยจะทยอยเปิดให้ใช้ได้ทั้ง 59 ภาษาภายในอีกไม่กี่วันหลังจากนี้
เบื้องหลังโปรแกรมนี้ทำงานยังไง?
ย้อนกลับไปเมื่อ Google Translate เปิดตัวเมื่อปี 2549 Google ใช้หลักการ แปลภาษาโดยอิงกฎของภาษา การใช้สถิติ และมีเครื่องมือถือให้นักแปลเข้าไปแก้ไขคำผิดเพื่อทำให้คำแปลสมบูรณ์ขึ้น แต่ท้ายที่สุด การแปลเป็นประโยคก็ยังทำไม่ดีพอ
ถึงแม้วันนี้ การแปลภาษา Google จะมีส่วนที่คิดขัดอยู่บ้าง แต่ต้องยอมรับว่ามันแปลได้ดีกว่าแต่ก่อนมาก คืออ่านแล้วเข้าใจ แล้วเรามาเกลาประโยคให้รู้เรื่องอีกที ซึ่งง่ายกว่าเดิมที่ต้องใช้แปลทีละคำ